นครพนม สวยไม่ธรรมดา น้ำผึ้ง หลานบิ๊กจิ๋ว ผู้สมัคร พปชร.สวมผ้าถุงลุยหาเสียง ชวนอนุรักษ์ผ้าไทย

นครพนม สวยไม่ธรรมดา น้ำผึ้ง ณัฐธภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้สมัคร พรรคพลังประชารัฐ เขต 2 เบอร์ 7 หลานสาวบิ๊กจิ๋ว สวมผ้าถุงพื้นเมือง ลุยหาเสียง ควบคู่ส่งเสริมอนุรักษ์ความเป็นไทย เชิญชวนสวมผ้าถุงพื้นเมือง กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ชุมชน หนุนกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองมีรายได้ ลั่นไม่เคยท้อ ถึงเคยพ่ายการเลือกตั้ง ย้ำขอสาสาพัฒนาช่วยเหลือสังคม ถึงแม้ไม่มีตำแหน่ง เดินหน้าหาเสียงโค้งสุดท้าย เน้นลงพื้นที่เดินพบปะชาวบ้าน ชูนโยบาย แก้ปัญหาปากท้อง งดปราศรัยใหญ่  จับตาศึกเลือกตั้ง นัดล้างตา มีสหายแสง ย้ายข้ามเขต เสริมทัพ ฝ่ายร่วมรัฐบาล หวังลมแชมป์เพื่อไทย

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม สำหรับบรรยากาศหาเสียงเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในเขตเลือกตั้ง ที่ 1 ต้องยอมรับ ว่า มีผู้สมัครอีกคนสำคัญ น่าจับตามองอีกคน ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ คือ นางสาวณัฐธภัสส์ ยงใจยุทธ หรือ น้ำผึ้ง ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 นครพนม เบอร์ 7 พรรคพลังประชารัฐ เจ้าของสโลแกน ผึ้งพิง ผึ้งได้ หลานสาว บิ๊กจิ๋ว พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี  ถึงแม้จะพ่ายการเลือกตั้ง มาหลายครั้ง ตั้งแต่ เคยลงสมัครชิงนายก อบจ.นครพนม รวมถึง สมัครชิง ส.ส. ในการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา แต่เจ้าตัว ยังคงเดินหน้าอาสาทำงานรับใช้สังคม เป็นกระบอกเสียงของพี่น้องประชาชน นำปัญหาความเดือดร้อน ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐเอกชน เข้าไปช่วยเหลือปัญหาสังคมแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ จ.นครพนม ต่อเนื่อง

ล่าสุด นางสาวณัฐธภัสส์ ยงใจยุทธ หรือ น้ำผึ้ง ยังเคยเป็นอดีต ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ผลักดันจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน และยุติธรรมพบประชาชน ตามนโยบายรัฐบาล ทั้งภาระหนี้สินในระบบ และนอกระบบ รวมถึง หนี้ กยศ. ไปจนถึงการเยียวยาผู้เสียหายในคดีอาญา โดยมีประชาชนได้เข้าร่วมโครงการ ได้ประโยชน์กว่า 5,000 ราย นอกจากนี้ ยังทำงานจิตอาสา นำเครื่องอุปโภคบริโภค ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ยากจนด้อยโอกาส ผู้สูงอายุมาต่อเนื่อง จนเป็นที่รู้จักของ พี่น้องประชาชน และเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน ทั้งที่ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง

ล่าสุดในการลงพื้นที่หาเสียงมเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งนี้  นางสาวณัฐธภัสส์ ยงใจยุทธ หรือ น้ำผึ้ง ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 นครพนม เบอร์ 7 พรรคพลังประชารัฐ เจ้าของสโลแกน ผึ้งพิง ผึ้งได้ เน้นการหาเสียงเชิงรุก เดินพบปะแบบเข้าถึงประชาชนตามครัวเรือน แทนการปราศรัยเวทีใหญ่ เพื่อชูนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ภาระหนี้สิน  โดยเฉพาะนโยบายสวัสดิการแห่งรัฐ ที่สำคัญยังมีเอกลักษณ์การแต่งกาย และเป็นสีสันทางการเมือง เนื่องจากมีการแต่งกายลงพื้นที่หาเสียงไม่เหมือนใคร เพราะจะเน้นสวมผ้าถุงพื้นเมือง หรือผ้าซิ่น ที่ทอจากฝีมือกลุ่มแม่บ้าน ชนเผ่าต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครพนม เป็นการสร้างค่านิยมในการอนุรักษ์ความเป็นไทย เชิญชวนพี่น้องประชาชน ลูกลานเยาวชน หันมาสวมผ้าไทย เป็นการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย เน้นคุณค่าความสวยงามของผ้าพื้นเมือง ที่จะส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจค้าขาย เพิ่มช่องทางการตลาด สร้างอาชีพให้กับกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองมีรายได้ สอดคล้องกับนโยบาย สร้างอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ชุมชน

ขณะเดียวกันการเลือกตั้งในพื้นที่ เขต 2  นครพนม ประกอบด้วย อ.เมืองนครพนม เป็นหลัก รวมถึง อ.โพนสวรรค์ และ อ.ท่าอุเทน ถือเป็นพื้นที่แชมป์เก่าของ ดร.มนพร เจริญศรี (เดือน) ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย ที่เคยช่วงชิงพื้นที่ คะแนนนิยม มากับ พรรคพลังประชารัฐ รวมถึง พรรคภูมิใจไทย มาตลอด แต่มาถึงการเลือกตั้งครั้งนี้ ถือว่าดุเดือดเป็นพิเศษ เนื่องจาก ศึกสามเส้า ครั้งนี้ สหายแสง นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 3 พรรคภูมิใจไทย ยอมทิ้งฐานที่มั่น จากเขตเลือกตั้งที่ 1  พื้นที่ อ.ศรีสงคราม อ.นาหว้า อ.นาทม และ อ.บ้านแพง ย้ายมาลงสมัคร พื้นที่ เขต 2 แทน ส่วนพื้นที่เขต 1 ยอมส่งภรรยาลงแทน คือ นางพูนสุข โพธิ์สุ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 นครพนม เบอร์ 5 พรรคภูมิใจไทย ชนกับ ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 นครพนม เบอร์ 6 พรรคเพื่อไทย  ทั้งนี้เชื่อว่า สหายแสง หวังประกาศศึก ครอบครัวสหายแสง กับครอบครัวเพื่อไทย อีกทั้งยังเป็น ศึกพรรคฝ่ายรัฐบาลนายกตู่ กับพรรคฝ่ายค้านมาจากประชาธิปไตย ที่จะเป็นการวัดบารมี ว่าพี่น้องประชาชน จะเทคะแนนนิยมให้ฝ่ายไหน ถือเป็นการการเลือกตั้งชี้อนาคตทางการเมือง หากฝ่ายไหนพ่ายการเลือกตั้ง คงยากที่จะกลับมาทวงแชมป์

////////////////////////////////////////////////////////////////