นครพนม ส่องเส้นทางการเมือง กว่าจะถึงวันนี้ ภูมิพัฒน์ ผู้แทนดีเด่น ว่าที่ ส.ส. เพื่อไทย
1 min read
นครพนม ส่องเส้นทางการเมือง ไม่ธรรมดา กว่าจะถึงวันนี้ ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ว่า ที่ ส.ส. เขต 1 พรรคเพื่อไทย ผู้แทน กระบอกเสียงประชาชนดีเด่น รับโล่เกียรติยศจากนายกรัฐมนตรี จากความสำเร็จทางธุรกิจ สู่การทำความดีตอบแทนสังคม จนกระทั่งชนะการเลือกตั้ง ครั้งล่าสุด พร้อมทำงานสานต่อนโยบายพรรคเพื่อไทย แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ สร้างงาน สร้างอาชีพ ปราบปรามยาเสพติดจริงจัง
นับเป็นนักการเมือง เคยได้ชื่อว่า ผู้แทนกระบอกเสียงดีเด่นของประชาชน ที่มีโอกาสกลับมารับตำแหน่งอีกครั้ง สำหรับ ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เฮียจุ้น อายุ 59 ปี ว่าที่ ส.ส. เขต 1 นครพนม พรรคเพื่อไทย ลูกลานชาว อ.บ้านแพง จ.นครพนม ชนะการเลือกตั้ง ในการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้ทนราษฎร วาระล่าสุด เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา หลังจากว่างจากตำแหน่งทางการเมือง มาระยะหนึ่ง ด้วยวิถีทางการเมือง แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาถึงแม้จะไม่มีตำแหน่งทางการเมือง ต้องยอมรับ ว่า เฮียจุ้น พื้นฐานชีวิต มีจิตใจเอื้อเฟื้อ ชอบทำงานจิตอาสา ช่วยเหลือสังคม ดูแลรับใช้พี่น้องประชาชนมาตลอด อีกทั้ง เคยเป็นผู้แทนดีเด่น กระบอกเสียงประชาชน รับโล่รางวัลเกียรติยศจากนายกรัฐมนตรี มาก่อน ในช่วงที่เคยมีตำแหน่ง เป็น ส.ส. แบบสัดส่วนพรรคพลังประชาชน ตั้งแต่ปี 2551
จนกระทั่งเกิดวิกฤติทางการเมือง ถูกยุบพรรคพลังประชาชน จึงย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย หลังหมดวาระทำให้พ่ายการเลือกตั้ง แต่ยังมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าในเส้นทางการเมือง เพราะมีใจรัก ที่จะอาสาเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน ขับเคลื่อนนโยบาย มาพัฒนาท้องถิ่น สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชน โดยก่อนนี้ เคยนั่งตำแหน่งเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ จนกระทั่งล่าสุด ได้โอกาส มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย สมัคร ส.ส. เขต 1 นครพนม จนได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน ชนะการเลือกตั้ง สำหรับประสบการณ์ทำงาน ต้องยอมว่าไม่ธรรมดา เคยนั่งทำงานทั้งตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรี มาแล้วหลายกระทรวง ส่วนการศึกษาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาการศึกษา ปริญญาโทสาขาการจัดการระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยเซาท์อีสเทิร์น สหรัฐอเมริกา และปริญญาเอก สาขาการพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยนิวพอร์ต ประเทศสหรัฐอเมริกา
ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เฮียจุ้น อายุ 59 ปี ว่าที่ ส.ส. เขต 1 นครพนม พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า เดิมตนประกอบธุรกิจส่วนตัว มาหลายด้าน ล่าสุดได้ศึกษาลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจเครื่องดื่มจนประสบความสำเร็จ ในชื่อชานมไข่มุกโนบิชา เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ ในชื่อโนบิชา มีสาขาทั้งในประเทศไทย รวมถึงต่างประเทศ มากกว่า 800 สาขา โดยได้เริ่มเข้าสู่เส้นทางการเมือง ทำงานกับพรรคไทยรักไทย มาตั้งแต่ปี 2544 เคยมีประสบการณ์ทางการเมือง การพัฒนา มาตลอด ทั้งเคยเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี เลขารัฐมนตรี มาหลายกระทรวง อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ ทำเนียบรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวัฒนธรรม และเคยทำหน้าที่ตำแหน่งโฆษกกระทรวงยุติธรรม จนกระทั่งได้มีโอกาสทำงาน รับตำแหน่ง เป็น ส.ส. สัดส่วนพรรคพลังประชาชน ทำงานบนเส้นทางการเมืองมาตลอด โดยที่ผ่านมายอมรับว่า ต้องเจอวิกฤติการเมืองหลายอย่าง ทำให้ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ไมมีตำแหน่งทางการเมือง แต่ยังมุ่งมั่นที่จะอาสาดูแลพี่น้องประชาชน จนกระทั่งได้รับโอกาส ล่าสุด เป็นผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 นครพนม พรรคเพื่อไทย และได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน ชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น
ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ สิ่งสำคัญในการทำงานการเมือง ตนมองว่า สิ่งที่ตนมุ่งมั่นตลอดเวลาคือ จะต้องทำงานร่วมกับพรรคการเมือง ที่มีศักยภาพในการบริหารงาน คือ พรรคเพื่อไทย ถึงแม้จะเจอวิกฤติทางการเมืองมาหลาย ครั้ง แต่ยังยืนหยัดอยู่เคียงข้างประชาชน และมีผู้นำที่เข้มแข็ง สำคัญที่สุดต้องยอมรับว่า พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคการเมือง ที่มีนโยบาย ที่เข้าถึงประชาชน และทำนโยบายสำเร็จมาทุกสมัยที่เป็นรัฐบาล โดยจะมีการนำนวัตกรรมใหม่ มาดูแลช่วยเหลือ พัฒนาด้านเศรษฐกิจการค้า การเกษตร ให้กับพี่น้องประชาชน เน้นแก้ปัญหาหนี้สินของประเทศ หนี้สินของเกษตรกร และให้ความสำคัญเรื่องการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ เพราะเป็นหัวใจของประชาชน เช่นเดียวกัน ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา เชื่อว่า นโยบาย และความจริงใจของพรรคเพื่อไทย ทำให้ ตนได้รับการสนับสนุนชนะการเลือกตั้ง ยืนยันหลังมีการจัดตั้งรัฐบาล สิ่งแรกที่ตนจะต้องสานต่อนโยบายพรรคเพื่อไทย คือ การนำนโยบายแก้ปัญหาหนี้สินประชาชน การแก้ปัญหาราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ ประชาชน ทุกคนจะต้องได้รับการดูแลช่วยเหลือทั่วถึง เน้นลดต้นทุนการผลิต ลดรายจ่าย สร้างรายได้ นอกจากนี้ปัญหาที่จะต้องแก้ไขเร่งด่วนที่สุด คือปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติด จะต้องหมดไปโดยเร็ว อย่างไรก็ตามหากพี่น้องประชาชน มีปัญหาความเดือดร้อน หรือต้องการปรึกษาแนวทางการพัฒนาด้านต่างๆ และขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับการส่งเสริมอาชีพ ปัญหายาเสพติดระบาด สามารถติดต่อได้ทุกช่องทาง รวมถึงสำนักงานสาขาพรรคในพื้นที่ ทุกอำเภอ ตนพร้อมเป็นกระบอกเสียงต่อประชาชน เพื่อเสนอปัญหาไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงรัฐบาลให้เร่งรัดแก้ไขปัญหาทุกด้าน
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////