ทหารพราน จับหนุ่มสกล ทาสยาบ้า ไต่เต้าขนยากว่า 2.7 แสนเม็ด ส่ง กทม.
นครพนม ขนยาบ้าเย้ยกองกำลังพิเศษ ทหารพราน 2101 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี สกัดจับอีก หนุ่มทาสยาบ้า วัย 34 ปี ทาสยาบ้า ติดยาบ้ามานาน ไต่เต้าผันตัวเป็นผู้ค้า ขับกระบะรับจ้างขนยาบ้า กว่า 2.7 แสนเม็ด จากชายแดนอีสาน นครพนม เตรียมส่ง ภาคกลาง กทม. เร่งขยายผล สาวถึงนายทุน เข้มชายแดน ยาบ้าเกรดต่ำยังทะลัก ทำตลาดชายแดนอีสาน เม็ดละ 30 บาท นำร่อง นครพนม เป็นพื้นที่พิเศษ 3 เดือน ประเมินผล ป้องกันทะลักชายแดน คัดกรองผู้เสพ ปราบปรามผู้ค้า และนายทุน ตัดวงจร
เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 ที่กองร้อยทหารพรานที่ 2101 บ้านปากห้วยม่วง ต.นาเข อ.บ้านแพง จ.นครพนม พ.อ.กันตภณ จันทะนันท์ รองหัวหน้าส่วนปราบปราม หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งตัน และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) พร้อมด้วย พ.อ.สุริวัชร์ อัครพรเดชาพงษ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 (ผบ.ฉก.ทพ.21) นายชินวัต ทองปรีชา นายอำเภอบ้านแพง พ.ต.อ.สุนันท์ สร้อยสุด ผกก.สภ.บ้านแพง พ.ต.ท.เรวัฒ จำปาน ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 237 น.ต.สมเจตน์ ค้าทวี หัวหน้าสถานีเรือบ้านแพง และ ร.ท.วันชาติ เหมือนปืน ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 2101 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวการจับกุม ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เครือข่ายรายสำคัญ คือ นายคนองศักดิ์ วงจันทา หรือทู อายุ 34 ปี เป็นชาว อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร พร้อมยาบ้าจำนวน 139 มัด นับได้ 278,000 เม็ด รวมมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ตรวจสอบเป็นยาบ้าประเภทเกรดต่ำ แพคเกจ อักษร Y1 สีน้ำเงิน มีราคาซื้อขายตามแนวชายแดน เม็ดละประมาณ 30 บาท พร้อมยึดของกลาง รถยนต์ กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็คซ์ สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยตรวจยึดได้หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังลงพื้นที่ ตรวจสอบสกัดกั้นปราบปรามจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน จนกระทั่งสกัดจับกุมตรวยค้นรถยนต์ผู้ต้องหาได้ ริมถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 2390 บ้านอ้วนน้อย หมู่ที่ 9 ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม เมื่อคืนวันที่ 9 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผล
เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทราบว่าผู้ต้องหา มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เสพยาบ้ามานาน จนกระทั่งมีการผันตัว มาเป็นผู้ค้า รับจ้างใส่งยาบ้าจากชายแดนอีสาน จ.นครพนม ที่ลักลอบลำเลียงมาจาก สปป.ลาว แบบกองทัพมด ทางเรือหางยาวหาปลา ก่อนนำมาพักรอการขนส่งต่อไปขาย จนกระทั่งสามารถสกัดจับกุมตรวจยึดได้ เชื่อว่าจะมีการนำส่งปลายทางภาคกลาง กทม. ได้ค่าจ้างไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท แต่ผู้ต้องหาอ้างว่า พึ่งทำครั้งแรก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะพบประวัติเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดรายสำคัญ และเป็นเครือขายค้ายาบ้าข้ามชาติ ที่ลักลอบลำเลียงยาบ้าเข้ามาจำนวน ครั้งละกว่าแสนเม็ด ถือว่าเป็นเครือข่ายรายใหญ่ พร้อมจะได้สอบสวนขยายผล สาวถึงนายทุนรายใหญ่
นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นการกระทพผิดที่เย้ยกฎหมายทั้งที่ กองทัพภาค 2 ได้มีการนำร่องให้พื้นที่ จ.นครพนม เป็นพื้นที่พิเศษ นำร่อง ตั้ง หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งตัน และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) รวมถึงหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ พร้อมระดมกำลังลงพื้นที่ลาดตระเวนทั้งทางบกทางน้ำ และตั้งจุดตรวจในพื้นที่เสี่ยง แต่ยังมีการลักลอบขนเย้ยเจ้าหน้าที่ โดยจะมีการเพิ่มมาตรการเข้มในการสกัดกั้นปราบปรามจับกุมทุกรูปแบบ มีการคัดกรองผู้เสพ ผู้ค้า ขยายผลถึงนายทุน เพื่อตัดวงจรการค้า อีกทั้งในช่วงนี้ยังพบว่า มียาบ้าเกรดต่ำ แพคเกจ อักษร Y 1 สีน้ำเงิน มีการทะลักเข้าชายแดนอีสานต่อเนื่อง เพราะเป็นที่ต้องการตลาดแรงงาน เยาวชน กรรมกร มีราคาตกเม็ดละประมาณ 30 บาท จึงต้องมีการเข้มงวดประเมินผลในรอบ 3 เดือน ตั้งแต่ธันวาคม 2566 ถึง กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อเป็นแนวทางในการปราบปรามทุกพื้นที่ ตามนโยบายรัฐบาล
//////////////////////////////////////////////////////////